ชั้นวางแบบเหล็กใครว่า ใช้ได้แค่ในโรงงาน บอกเลย ไม่จริง! เพราะสามารถนำไปใช้ได้อเนกประสงค์ในทุกพื้นที่ จะบ้าน จะร้านค้า หรืออะไรก็ได้หมด แต่หลายท่านอาจจะกำลังสงสัยล่ะสิว่า ควรจะจัดวางยังไง? เพราะหน้าตาไม่เหมือนชั้นวางหรือตู้แบบที่เคยใช้มาก่อน บทความนี้จึงขอมาบอกต่อเทคนิคการวางของบนชั้นเหล็ก ให้หยิบง่าย เก็บของได้แบบจัดเต็มกัน

1) ใช้วางที่ไหน วางอะไร และวางมากน้อยแค่ไหน

เทคนิคแรกคือ การเลือกซื้อที่วางชั้นเหล็กให้เหมาะกับการใช้งาน ด้วย 3 คำถาม 1 จะวางที่ไหน 2 เอาไปใช้วางอะไร และ 3 ปริมาณที่จะวางมากน้อยแค่ไหน จะได้ไม่ซื้อใหญ่เกินจนสิ้นเปลือง หรือเล็กไปจนวางได้ไม่คุ้มพื้นที่ และเตรียมหาเทคนิคการวางบนชั้นวางแบบจัดเต็มได้อย่างถูกวิธี รวมถึงควรเลือกแบบที่มีคุณภาพ คุ้มค่ากับการลงทุนระยะยาว อย่างชั้นวางของเราที่ผลิตจากเหล็กเกรดพรีเมี่ยม รับน้ำหนักได้มากกว่า 50 กก. ในราคาถูกกว่าใคร เพราะเราเป็นโรงงานผลิตเอง ขายเอง ส่งตรงถึงมือลูกค้าเอง!

2) หาภาชนะมาจัดเก็บตามประเภทสิ่งของ

เมื่อรู้แล้วว่า จะเอาชั้นวางมาเก็บสิ่งของประเภทไหน ก็เริ่มมาคิดกันต่อว่า จะหาวิธีจัดเก็บต่อไปยังไง เพื่อให้นำมาเรียงบนชั้นวางได้อย่างเป็นระเบียบ เช่น เสื้อผ้าพับใส่กล่องให้เรียบร้อยก่อนนำไปวางบนชั้นวาง เครื่องเขียนก็ใส่กล่องหรือชั้นวางเล็กๆ เครื่องปรุงหรือส่วนประกอบที่ใช้ในครัวอาจหากระปุกสุญญากาศมาใส่ก่อนเรียงก็ได้เช่นกัน ฯลฯ

3) จัดวางอย่างมีกลยุทธ์ให้เห็นง่าย หยิบใช้ได้สบาย

หลังจากใส่ภาชนะหรือจัดการสิ่งที่จะเอาไปวางจนเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมจัดวางอย่างมีกลยุทธ์ เพื่อให้เห็นได้ง่าย หยิบใช้ได้สบาย ด้วยเทคนิคง่ายๆ ดังนี้

- สิ่งที่ใช้บ่อย คนหาบ่อย หรือต้องการโปรโมทสิ่งนั้น จัดไว้บนชั้นระดับสายตาหรือประมาณอก

- สิ่งที่มีอายุการใช้งานจำกัด ให้เรียงของเก่าก่อนของใหม่ เอาอายุอีกนานไว้ด้านใน แล้วเอาอายุการใช้งานที่ใกล้หมดแล้ววางด้านนอก

- หากสิ่งนั้นมีหลายขนาดให้เรียงจากเล็ก (ด้านหน้า) ไปจนถึงขนาดใหญ่ (ด้านหลัง) ให้เห็นทุกชิ้นได้ครอบคลุม

- ถ้าหน้าตาคล้ายกันแต่คนละประเภทควรวางแยกชั้น หรือแบ่งประเภทแต่ละชั้นวางให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการหยิบไปใช้ผิดพลาด ยิ่งอาหารและสิ่งของประเภทอื่นควรแยกออกห่างจากกัน เพื่อลดการปนเปื้อน

การวางของที่ดีมีประสิทธิภาพ จนหยิบของมาใช้ได้ง่าย และเก็บได้แบบจัดเต็ม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับที่ชั้นวางเหล็กเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยเทคนิคการวางด้วย เพราะงั้นอย่าลืมนำ 3 เทคนิคที่เรานำมาฝากในบทความนี้ไปปรับใช้ตามความเหมาะสมกันดูนะ รับรองว่า คุณจะรู้สึกคุ้มค่ากับชั้นวางที่ได้ลงทุนไปมากกว่าที่เคย!